ประวัติ ของ เดวี ซูการ์โน

เดวี ซูการ์โน มีนามเดิมว่านาโอโกะ เนโมโตะ เธอเข้าทำงานเป็นพนักงานต้อนรับและดูแลลูกค้าในบาร์แห่งหนึ่งย่านกินซะใกล้โรงแรมอิมพีเรียล ขณะที่เธออายุได้ 19 ปี ได้พบกับซูการ์โน ณ บาร์ดังกล่าว ขณะนั้นซูการ์โนอายุได้ 57 ปี ณ เวลานั้นเธอกำลังเรียนด้านศิลปะและความบันเทิงอยู่[1] หลังจากนั้นเธอสมรสกับซูการ์โนใน พ.ศ. 2505 และเปลี่ยนไปนับถือศาสนาอิสลาม ซูการ์โนตั้งชื่อภรรยาให้เป็นแบบอินโดนีเซียว่า "รัตนา ซารี เดวี ซูการ์โน" เป็นภาษาชวาที่ยืมจากสันสกฤตแปลว่า "เทพีแห่งมณีเนื้อแท้" ทั้งสองมีธิดาด้วยกันเพียงคนเดียวคือการ์ตีกา (Kartika) ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็นจารีนา (Carina)[1]

พ.ศ. 2510 ซูการ์โนถูกซูฮาร์โตกระทำรัฐประหาร และซูการ์โนถึงแก่กรรมในอีกสามปีถัดมา เดวี ซูการ์โนผู้ตกพุ่มม่ายได้ย้ายไปอยู่ยุโรปและอาศัยตามประเทศต่าง ๆ เช่น ประเทศสวิตเซอร์แลนด์, ฝรั่งเศส และสหรัฐ กระทั่ง พ.ศ. 2551 เธอย้ายกลับไปอาศัยในย่านชิบูยะในโตเกียว ณ บ้านซึ่งเต็มไปด้วยความทรงจำ[2]

ในประเทศญี่ปุ่นมักเรียกเธอว่าคุณนายเดวี มากกว่าที่จะเรียกชื่อจริง เธอปรากฏในสื่ออีกครั้งช่วงมกราคม พ.ศ. 2551 หลังซูฮาร์โตกล่าวโทษซูการ์โนว่าศึกษาการปกครองแบบระบบตัวแทน และเชื่อมโยงเขากับปล โปต จอมเผด็จการชาวกัมพูชา[3]

พ.ศ. 2559 เธอพากย์เสียงเป็นพลอเรีย โอกันดา (Ploria Ōkanda) จากภาพยนตร์อนิเมะญี่ปุ่นเรื่อง PriPara Minna no Akogare Let's Go PriPari[4]